Lab Computer Programming 1 | PPTX
Recommended
PDF
PDF
ใบความรู้ที่ 1 ความรู้พื้นฐานโปรแกรมภาษาซี
PDF
บทที่1 พื้นฐานโปรแกรมภาษาซี
PDF
การเขียนคำสั่งขั้นพื้นฐาน(ภาษาC)
PDF
PPT
PDF
การเข้าใช้โปรแกรมซี Dev C++
PDF
PPT
PDF
PPTX
PPTX
โครงสร้างการเขียนโปรแกรมภาษาไพธอน
ODP
DOC
PDF
PDF
PPTX
คลาสและการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุเบื้องต้น 1
PPT
PDF
DOC
การเขียนคำสั่งควบคุมขั้นพื้นฐาน
PPT
PDF
การใช้สูตรหาพื้นที่ ด้วย Dev++
PDF
DOC
DOC
PDF
PDF
PPTX
PPT
Java Programming [10/12]: Java Applet
PPT
Java Programming [1/12] : Introduction
More Related Content
PDF
PDF
ใบความรู้ที่ 1 ความรู้พื้นฐานโปรแกรมภาษาซี
PDF
บทที่1 พื้นฐานโปรแกรมภาษาซี
PDF
การเขียนคำสั่งขั้นพื้นฐาน(ภาษาC)
PDF
PPT
PDF
การเข้าใช้โปรแกรมซี Dev C++
PDF
What's hot
PPT
PDF
PPTX
PPTX
โครงสร้างการเขียนโปรแกรมภาษาไพธอน
ODP
DOC
PDF
PDF
PPTX
คลาสและการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุเบื้องต้น 1
PPT
PDF
DOC
การเขียนคำสั่งควบคุมขั้นพื้นฐาน
PPT
PDF
การใช้สูตรหาพื้นที่ ด้วย Dev++
PDF
DOC
DOC
Similar to Lab Computer Programming 1
PDF
PDF
PPTX
PPT
Java Programming [10/12]: Java Applet
PPT
Java Programming [1/12] : Introduction
PPTX
PPT
PDF
Intermediate Java Programming Language (in Thai)
PDF
PDF
PDF
PDF
PDF
PDF
PDF
PDF
PPTX
PDF
Introduction to Java Programming
PPT
PPT
Java Programming [2/12] : Overview of Java Programming Language
More from Saranyu Srisrontong
PPTX
PPTX
PPT
PPTX
PPT
PPT
PPT
PPT
PDF
Intellec.pro for final exam
PDF
การแก้ปัญหาการออกแบบและพัฒนาขั้นตอนวิธี
PPT
PPTX
Computer systemarchitecture
Lab Computer Programming 1 1. 2. 3. 4. 5. 6. 6
Java Servlet API :- ชุดที่รวบรวมกลุ่มคลาสที่สนับสนุน การทางานที่
เกิดขึ้นบนเซิร์ฟเวอร์เป็นส่วนใหญ่ โดยให้เซิร์ฟเวอร์และไคลเอนต์สื่อสารกันด้วยโปรโตคอล
HTTP (Hyper Text Transfer Protocol)
Windows, Unix, Linux
Browser
Java Servlet
เว็บเซิร์ฟเวอร์
คำร้องขอ
ข้อมูลใน
รูปแบบ HTML
7. 7
Java Server Page : JSP
• เป็นรูปแบบการทางานในฝั่งเซิร์ฟเวอร์เหมือนกับจาวา เซิร์ฟเล็ต แต่ผู้สร้าง
สามารงเขียนคาสั่งเจเอสพีลงในไฟล์เว็บได้โดยตรง ผิดกับจาวาเซิร์ฟเล็ต ซึ่งผู้สร้างต้อง
เขียนคาสั่งจาวาในแบบเซิร์ฟเล็ต แล้วคอมไพล์เป็นเซิร์ฟเล็ตไว้ใช้งาน
<HTML>
<HEAD>
<TITLE> Heading </TITLE>
</HEAD>
<BODY>
<% out.println("Hello Java Server Page");%>
</BODY>
</HTML>
8. 8
Java 3D API
:- รูปแบบ API หนึ่งที่งูกใช้งานสาหรับการใช้งานเกี่ยวข้องระบบสามมิติ โดย
สามารงช่วยให้โปรแกรมเมอร์สร้างภาพหรือสภาวะแวดล้อมแบบสามมิติได้ด้วย
ภาษาจาวา
Java RMI API
:- ชุดสาหรับให้โปรแกรมเมอร์นามาใช้งาน เพื่อวัตงุประสงค์ในการสร้างโปรแกรมที่มี
การติดต่อสื่อสารกัน
9. 10. 10
JDBC Data Access
:- ชุด API ที่โปรแกรมเมอร์ภาษาจาวาสามารงสร้างแอพพลิเคชั่นหรือแอปเพล็ตเพื่อ
ติดต่อกับฐานข้อมูลด้วย JDBC Driver เพื่อเข้าไปงึงระบบฐานข้อมูลเชิง
สัมพันธ์จากผลิตภัณฑ์ได้หลากหลาย เช่น Oracle, SQL Server,
Informix, DB2, mySQL โดยใช้คาสั่ง SQL ซึ่งเป็นคาสั่งที่ทุกระบบ
ฐานข้อมูลสนับสนุน
11. 12. 12
• หลักเกณฑ์การตั้งชื่อต่าง ๆ เช่น ชื่อ class, ชื่อ data, ชื่อ method และชื่อตัวแปร
ประกอบด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษ ตัวเลข และสัญลักษณ์ _ หรือ $ เช่น age,
int2float, _name$ เป็นต้น
ความยาวไม่ควรเกิน 65535 ตัวอักษร
ไม่ควรใช้ตัวเลขเป็นตัวแรก เช่น 101database, 2name
ไม่ควรใช้ช่องว่าง (spaces) หรือ . (periods)
ตัวอักษรตัวพิมพ์เล็กและตัวพิมพ์ใหญ่งือว่าต่างกัน เช่น Count, count และ CoUnT
งือว่าเป็นคนละชื่อ
ต้องไม่ตรงกับคาศัพท์สงวน (Key Word) ในภาษาจาวา
ชื่อ class ควรขึ้นต้นด้วยตัวพิมพ์ใหญ่ ส่วนที่เหลือเป็นตัวเล็ก
ชื่อ data หรือตัวแปรควรเป็นตัวพิมพ์เล็กทั้งหมด
ชื่อค่าคงที่ควรเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมด
ชื่อ method คาแรกควรเป็นตัวเล็กทั้งหมด คางัดไปตัวแรกควรเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ ที่เหลือจึง
เป็นตัวเล็ก เช่น setCount, testFirst เป็นต้น
13. 13
คาศัพท์สงวน (Key Word) ในภาษาจาวา
abstract boolean break byte case
catch char class const continue
default do double else extends
final finally float for goto
if implements import instanceof int
interface long native new package
private protected public return short
static super switch synchronized this
throw throws transient try void
volatile while
14. 14
• การเขียนหมายเหตุ (Comment) สามารงทาได้ 3 รูปแบบ คือ
//single line comment
/* multiple line comments
…*/
/** This is a javadoc comment*/
• โปรแกรมที่สร้างจากจาวาต้องสามารงสร้างได้อย่างน้อยหนึ่งคลาสโดยมีรูปแบบโครงสร้างดังนี้
[<access_specifier>] class <class_name>
{ //data members
//methods }
access_specifier :- ระดับการเข้างึงข้อมูล เช่น public และ private
public หมายงึง ระดับการเข้างึงข้อมูลที่ไม่มีข้อจากัดใดๆ
private หมายงึง ระดับการเข้างึงข้อมูลสาหรับการใช้งานในคลาส
ในหนึ่งโปรแกรมต้องมีเพียงหนึ่งคลาสที่มีชื่อเดียวกับโปรแกรมและต้องเป็นชนิด public เสมอ
15. 15
• data members เป็นส่วนประกอบหนึ่งของคลาส ใช้สาหรับกาหนดชื่อและ
ชนิดของตัวแปรที่ใช้สาหรับเก็บข้อมูล โดยมีรูปแบบดังนี้
[<access_specifier>] [<modifier>] <datatype> <variable_name>
modifier เป็นการกาหนดคุณลักษณะพิเศษในการใช้งาน
ตัวแปรและ method เช่น static และ final
static หาก Data ใดนาหน้าด้วยคาศัพท์สงวน static แล้ว Data นั้น
จะงูกโหลดลงในหน่วยความจาและพร้อมใช้งานทันที เมื่อมีการอ้างงึงตาม
ข้อกาหนดของระดับการเข้างึง (Accessibility)
final หาก Data ใดนาหน้าด้วยคาศัพท์สงวน final แล้ว
Data นั้นใช้สาหรับเก็บข้อมูลค่าคงที่ (Constant) ซึ่งไม่สามารงเปลี่ยนค่า
ได้
16. 16
• methods มีรูปแบบดังนี้
[<access_specifier>] [<modifier>] < return_type >
<method_name> ([argument_list])
{ //Statements }
return_type :- ชนิดของข้อมูลที่งูกส่งคืนหลังสิ้นสุดการทางานของ method
argument_list :- ช่องทางในการผ่านข้อมูลเพื่อส่งให้ method ใช้ในการ
ทางาน
Statement :- คาสั่งควบคุมการทางานของนิพจน์ เพื่อกาหนดหลักการและวิธีการ
ประมวลผลภายใน method
ในหนึ่งโปรแกรมจะต้องมี Method ที่ชื่อ main เสมอ โดย Method main
จะเป็น Method แรกที่โปรแกรมเรียกใช้ ซึ่งในหนึ่งโปรแกรมจะต้องมีเพียง 1 main
Method เท่านั้น ซึ่งจะต้องมีค่า Accessibility เป็น static เสมอ และ
เนื่องจากไม่มีการส่งค่ากลับ จึงใช้ Accessibility void ร่วมด้วยเสมอ
17. 17
• ท้ายชื่อของ Method ต้องตามด้วยเครื่องหมาย ( ) หากไม่มีการส่ง
ค่าพารามิเตอร์ใดไปด้วย หากมีการส่งค่า จะต้องอยู่ในรูปแบบใดแบบหนึ่งเสมอ เช่น
(String args[ ]) หรือ (String[ ] args)
• การแสดงผลทางจอภาพสามารงทาด้วย method ที่ ชื่อว่า println
ซึ่งอยู่ใน System.out โดยคาสั่งนี้ต้องการข้อมูลที่เป็น String เพื่อนาไป
แสดงบนจอภาพ แต่ทั้งนี้อาจส่งข้อมูลที่เป็น Integer ร่วมด้วยได้โดยใช้
เครื่องหมาย + ข้อมูลทั้งหมดจะงูกแปลงเป็น String โดยอัตโนมัติ
18. 18
ตัวอย่างการเขียน Java Applet
import java.applet.*;
import java.awt.Graphics;
public class hello2 extends Applet
{
public void paint(Graphics g)
{
g.drawString("Hello World!",20,60);
}
}
<HTML>
<HEAD>
<TITLE>Heading</TITLE>
</HEAD>
<BODY>
<applet code="hello2.class" width=200 height=100></applet>
</BODY>
</HTML>
19. 20. 20
• โปรแกรมที่เขียนแบบ Applet ต้องมีการเพิ่มคลาสต่าง ๆ โดยเฉพาะ java.applet.* และ
java.awt.Graphics
• Package หรือ Java Class Library เป็นที่เก็บรวบรวม Class ต่าง ๆ แต่ละ
Package จะงูกเก็บแยกไว้ในแต่ละ Directory และแต่ละ Package จะเก็บ Class
ต่าง ๆ แยกไว้ในแต่ละ Directory เช่นเดียวกัน ในแต่ละ Class จะมี methods ให้
เลือกนามาใช้ให้เหมาะกับงานที่ต้องการโดยไม่ต้องเขียนขึ้นมาเอง
• Class ใน Package หนึ่งสามารงเรียกใช้ Class อื่นใน Package เดียวกันได้ แต่จะ
เรียกใช้ Class ที่อยู่ต่าง Package กันได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับการกาหนดค่า Accessible
ข้อกาหนดเพิ่มเติมในการเขียน Java Applet
21. 21
• การเรียกใช้ Package สามารงทาได้ด้วยคาสั่ง import ซึ่งต้องวางไว้ตอนแรกสุดของ
โปรแกรมเสมอ เพื่อให้ Compiler นา Package ต่าง ๆ ที่อ้างงึงมาเชื่อมโยงเข้ากับ
โปรแกรม ก่อนที่จะมาเรียกใช้ methods ต่าง ๆ ภายในโปรแกรม
• โปรแกรม Applet ต้องเขียนในรูป
public class hello2 extends Applet
ซึ่งเป็นการสืบทอดคุณสมบัติของคลาส Applet
• การแสดงข้อมูลบนจอภาพ ต้องใช้คาสั่ง drawString ซึ่งเป็น method ของคลาส
Graphics
22. 22
ตัวอย่าง Standard Package ในภาษา Java
Package Class ที่เป็ นส่วนประกอบ
java.applet Class ที่จำเป็นต่อกำรสร ้ำง Applet
java.awt Class ทีใช ้ประโยชน์ในกำรสร ้ำง GUI
java.io Class สำหรับปฏิบัติงำนด ้ำน I/O
java.lang Class พื้นฐำนของ Java ไม่ต ้อง import
java.net Class ที่ใช ้ติดต่อกับเครือข่ำย ใช ้ควบคู่กับ java.io
java.util Class ที่เป็น Utility เช่น กำรเข ้ำรหัส กำรถอดรหัส
java.awt.images Class ที่ใช ้ในกำรสร ้ำงและทำงำนกับรูปภำพ
java.swing Class ที่ใช ้สร ้ำง Swing ช่วยให ้ทำงำนง่ำยกว่ำ java.awt